ซอสมะเขือเทศ😋
ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::😋
- มะเขือเทศ 2000 กรัม
- กระเทียมจีนกลีบใหญ่ ปอกเปลือก 10 กลีบ
- อบเชย ความยาว 2 นิ้ว 2 แท่ง- กานพลู 7 ดอก
- พริกไทยป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
- Chilli Powder 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว 1/4 ถ้วย
- น้ำตาลอ้อย หรือน้ำตาลทรายไม่ขัดสี 3/4 ถ้วย
- เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
- กระเทียมจีนกลีบใหญ่ ปอกเปลือก 10 กลีบ
- อบเชย ความยาว 2 นิ้ว 2 แท่ง- กานพลู 7 ดอก
- พริกไทยป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
- Chilli Powder 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว 1/4 ถ้วย
- น้ำตาลอ้อย หรือน้ำตาลทรายไม่ขัดสี 3/4 ถ้วย
- เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
: วิธีทำ ::😝
เริ่มแรกเลย...ก็ให้เราเอามะเขือเทศมาเด็ดขั้วเขียวๆ ออก แล้วก็เอาไปล้างน้ำให้สะอาดนะคะ จากนั้นก็หยิบแต่ต่ละลูกมาหั่นให้ได้ลูกละ 8 ส่วนค่ะ
หั่นเสร็จก็เอามะเขือเทศใส่ลงในหม้อนะคะ แล้วก็ใส่กระเทียมลงไป ตามด้วยกานพลูกับอบเชย ที่ห่อด้วยผ้าขาวบางอ่ะค่ะ จากนั้นก็เติมน้ำเปล่าลงไปนะคะ ไม่ต้องมาก กะว่าพอให้ก้นหม้อไม่ไหม้ก็พอ
แล้วเอาหม้อขึ้นตั้งเตาไฟ โดยใช้ไฟกลางอ่ะค่ะ พอเดือดก็หรี่ไฟลงเล็กน้อย แต่ไม่ต้องถึงกับให้เป็นไฟอ่อน แล้วก็ต้มมะเขือเทศไปเรื่อยๆ เป็นเวลาสัก 30 นาที หรือจนมะเขือเทศและกระเทียมสุกนิ่มดี ก็ปิดไฟเตาได้เลยอ่ะค่ะ จากนั้นก็ตักทั้งมะเขือเทศ กระเทียม และน้ำในหม้อ ใส่ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้เลยค่ะ จากนั้นก็ตักทั้งมะเขือเทศ กระเทียม และน้ำในหม้อ ใส่ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้เลยค่ะ แล้วก็นำไปปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดละเอียดจนเกือบจะเป็นเนื้อเดียวกันนะคะ ก็นำไปกรองด้วยกระชอนตาถี่ๆ แล้วเก็บเอาไว้แต่เฉพาะเนื้อและน้ำมะเขือเทศอ่ะค่ะ เมื่อกรองเสร็จแล้ว ก็ให้เราใส่ Chilli Powder เกลือป่น น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู และพริกไทยลงไปนะคะ แล้วคนให้เข้ากันค่ะแล้วก็นำหม้อมะเขือเทศ ขึ้นตั้งเตาไฟอีกครั้งโดยใช้ไฟแรงนิดนึงนะคะ และพอส่วนผสมในหม้อเดือด ก็หรี่ไฟลงเป็นไฟอ่อน แล้วเคี่ยวไปเรื่อยๆ หมั่นนเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งส่วนผสมลดลงเหลือประมาณครึ่งนึง หรือตามความข้นที่ต้องการนะคะ ซึ่งเมื่อถึงตรงนี้แล้วให้เพื่อน ๆ ตักส่วนผสมในหม้อขึ้นมาชิมสักหน่อยค่ะ ว่ารสชาติถูกใจไหม ถ้าขาดรสอะไรไป เช่น รสหวานก็เติมน้ำตาล รสเค็มก็เติมเกลือ และรสเปรี้ยวก็เติมน้ำส้มนะคะ แล้วคนให้เข้ากัน จนส่วนผสมเดือดอีกทีก็ปิดไฟเตาได้เลยอ่ะค่ะ และเมื่อเราเคี่ยวซอสมะเขือเทศได้ที่แล้ว เราก็จะได้ซอสมะเขือเทศออกมาหน้าตาประมาณในภาพด้านล่างนี้นะคะ จากนั้นก็ให้เทซอสมะเขือเทศทั้งยังอุ่น ๆ ใส่ลงในขวดเลยค่ะ แล้วก็ปิดฝาไว้นะคะ พอเย็นสนิท ก็ค่อยเอาเก็บใส่ตู้เย็นไว้ค่า (เนื่องจากไม่ได้ใส่สารกันบูด เลยจำเป็นต้องเก็บใส่ตู้เย็น เพื่อยืดอายุซอสมะเขือเทศนะคะ) ..... แล้วเราก็จะได้ออกมาเป็นซอสมะเขือเทศสูตรแบบ Homemade หน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ
ยังไงลองไปทำทานกันดูนะคะ แล้วพบกับพิมใหม่ในเมนูถัดไป สวัสดีค่า 😍
ปุเค็มหน้ากระทิ
เเหล่งที่มาhttps://www.pim.in.thปุเค็มหน้ากระทิ
:: วิธีทำ ::
- ปูเค็มตัวใหญ่ๆ 10 ตัว
- หมูสับติดมัน 100 กรัม
- รากผักชี 5 ราก
- กระเทียม 1 + 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยขาว 1/4 ช้อนชา ........ (ในภาพด้านล่างพิมโขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยรวมกันแล้วนะคะ)
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- หางกะทิ 3 ถ้วย
- ตะไคร้ซอย 1/3 ถ้วย
- หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ ....... (หรืออาจจะมากน้อยกว่านี้ขึ้นกับความเค็มของปู)
- เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
- มะนาว 1 ลูก
- พริกชี้ฟ้าซอยบาง 1 เม็ด
- พริกขี้หนูสวนเด็ดก้าน มากน้อยตามชอบ
- หมูสับติดมัน 100 กรัม
- รากผักชี 5 ราก
- กระเทียม 1 + 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยขาว 1/4 ช้อนชา ........ (ในภาพด้านล่างพิมโขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยรวมกันแล้วนะคะ)
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- หางกะทิ 3 ถ้วย
- ตะไคร้ซอย 1/3 ถ้วย
- หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ ....... (หรืออาจจะมากน้อยกว่านี้ขึ้นกับความเค็มของปู)
- เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
- มะนาว 1 ลูก
- พริกชี้ฟ้าซอยบาง 1 เม็ด
- พริกขี้หนูสวนเด็ดก้าน มากน้อยตามชอบ
:: วิธีทำ ::
เริ่มต้นเรามาหมักหมูกันก่อนนะคะ ก็ให้เราผสมหมูสับ (ย้ำๆ ว่าหมูสับติดมัน จะอร่อยกว่าหมูสับเนื้อล้วน) กับรากผักชี กระเทียม พริกไทยที่โขลกรวมกันจนละเอียด แล้วก็เกลือป่นสักเล็กน้อย (ราว ๆ 1/8 ช้อนชา) นวดให้เข้ากัน แล้วหมักไว้ประมาณ 20-30 นาทีค่ะ
ในระหว่างหมักเราก็จะมาจัดการในส่วนของปูเค็มกันนะคะ สำหรับปูเค็มเนี่ย พิมซื้อมาจากตลาดสด ถ้าจำไม่ผิด ปู 10 ตัว หนักประมาณ 500 กรัมค่ะ .. เมื่อได้ปูเค็มมาแล้ว ล้างให้สะอาด แล้วลองหักขาปูมาชิมนิดนึงว่าเค็มมากไหม ถ้าเค็มมากกกก ก็ให้แช่น้ำเปล่าไว้สักประมาณ 10-15 นาทีเพื่อให้เค็มน้อยลงค่ะ แต่ถ้าเค็มอยู่ในระดับรับได้ ก็ไม่ต้องแช่น้ำนะคะ ^_^
จากนั้นนำปูมาตัดในส่วนปลายแหลม ๆ ตามในภาพทิ้งไปค่ะ (ถ้าไม่ตัด เวลาเราดูดขาปู มันอาจจะทิ่มเหงือกเราได้)
ตัดเสร็จ ก็จะได้ปูออกมาขาทู่ๆ อย่างนี้นะคะ
ต่อมาก็ดึงในส่วนของตะปิ้งออกไป (บางคนก็เรียกตะปิ้ง จับปิ้ง จะปิ้ง)
แล้วก็แกะปูออกเป็น 2 ส่วนนะคะ คือส่วนกระดองกับส่วนตัวปู
เราก็จะได้ปูเค็มที่จัดการเรียบร้อยอย่างในภาพด้านล่างนี้อ่ะค่ะ ^_^
จากนั้นก็ต้มน้ำเปล่าให้เดือดจัดนะคะ แล้วก็เทใส่ลงไปในกาละมังที่มีปูอยู่ เพื่อทำการลวกปู (หรือจะเอาปูใส่ลงไปในหม้อน้ำเดือดเลยก็ได้ค่ะ) ซึ่งเราจะลวกปูให้สุกประมาณนึง (ใช้เวลาราว 5 นาที) เพื่อลดความเค็ม และเพื่อให้น้ำสีดำ ๆ ของปูเค็มออกไปบ้าง เวลานำไปทำต้มกะทิ สีกะทิจะได้ไม่ค่อยหมองนะคะ ^_^
และเมื่อครบ 5 นาที เราก็ตักปูเค็มขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ แล้วเราจะได้ปูเค็มที่พร้อมเอาไปทำต้มกะทิ หน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี้อ่ะค่ะ
พักสักแป๊บพอให้ปูเค็มสะเด็ดน้ำ ก็หยิบกระดองปู ที่มีทั้งหมด 10 กระดอง มายัดไส้ด้วยหมูสับที่เราหมักไว้เมื่อตอนแรกนะคะ ซึ่งเมื่อยัดเสร็จแล้ว หมูสับอาจจะเหลือหรืออาจจะขาด ขึ้นกับขนาดของกระดองปู ยังไงเฉลี่ยให้ได้ทั่ว ๆ ทุกกระดอง เท่า ๆ กันเน๊าะคะ ^_^
ก็จะได้กระดองปูยัดไส้หมูสับออกมาอย่างในภาพด้านล่างนี้อ่ะค่ะ ..... ก็พักเอาไว้ก่อน
จากนั้นตั้งหม้อบนเตา ใส่หางกะทิลงไป เปิดไฟกลางนะคะ พอหางกะทิเริ่มร้อน (อย่าลืมคนๆ ด้วยทัพพี) ก็ค่อย ๆ หยิบกระดองปูยัดไส้หมูใส่ลงไปในหม้อ แล้วหรี่ไฟลงเล็กน้อย พอหมูสุกก็ตักขึ้นใส่ถ้วยพักไว้ก่อนค่ะ
จากนั้นใส่ตัวปูที่ลวกแล้วลงไปในหม้อน้ำกะทิใบเมื่อกี้ แล้วลดไฟลงเป็นไฟอ่อน เคี่ยวตัวปูกับน้ำกะทิไปสักแป๊บจนตัวปูนิ่ม และรสชาติความเค็มของปูออกมาปนกับน้ำกะทินะคะ
ก็ใส่ตะไคร้ซอย หอมแดงซอยลงไป
ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บไปสัก 1 ช้อนโต๊ะก่อน แล้วพอน้ำตาลละลายก็ลองตักน้ำกะทิในหม้อขึ้นมาชิมรสชาติดูว่าเป็นไปในทางไหน หวาน หรือเค็ม หากเค็มแต่เค็มไม่กลมกล่อมก็เติมน้ำตาลไปอีกสักนิด แต่หากหวานแล้วก็เหยาะเกลือลงไปสักหน่อยค่ะ กะว่าให้มีรสเค็มนำ แต่ไม่ต้องมาก หวานหอมตามพอกลมกล่อม แต่ไม่หวานเจี๊ยบ และไม่ต้องให้รสเข้มมาก เพราะเดี๋ยวพอทำเสร็จ ทิ้งไว้จนเย็น รสมันจะเข้มขึ้นอีกนะคะ ..... จากนั้นก็ตั้งไฟต่อไปสักแป๊บพอให้ตะไคร้นิ่ม
ก็เทหัวกะทิทั้งหมดใส่ลงไป ตามด้วยน้ำมะนาวสัก 1 ช้อนโต๊ะ (จากมะนาวประมาณ 1 ลูก) ตามด้วยพริกชี้ฟ้าแดงที่เราหั่นเอาไว้ และพริกขี้หนูสวนที่เราเด็ดก้านเรียบร้อยแล้ว รอเดือดอีกทีก็ปิดไฟเตาได้เลยค่่ะ
ที่ใส่มะนาว ไม่ได้ต้องการให้มีรสเปรี้ยว แต่เพื่อตัดรสเค็มหวานไม่ให้เลี่ยนนะคะ
แล้วเราก็จะได้ปูเค็มหน้าหมูกะทิ หรือที่บางคนเรียก ต้มกะทิปูเค็ม ออกมาหน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ
เมนูนี้รสชาติจะออกเค็มนำแบบนุ่มๆ หวานตามพอกลมกล่อมนะคะ แล้วก็หอมกะทิ หอมปูเค็ม หมูที่อยู่ในกระดองปูก็จะนุ่มๆ ทานคู่กับพวกผักสด อย่างแตงกวา ขมิ้นขาว มะเขือเปราะ มะเขือตอแหล ถั่วพู ผักกาดขาว ใบบัวบก .. เข้ากันมากเลยอ่ะค่ะ
หากเพื่อนๆ คนไหนไม่ทานหมู ก็ปรับเปลี่ยนเป็นไก่หรือกุ้งสับก็ได้นะคะ แต่ถ้าเป็นกุ้ง ต้องใช้แต่เนื้อกุ้งล้วน ๆ อย่าใช้ส่วนหัว เพราะไม่งั้นสีน้ำกะทิจะไม่สวย เพราะมีมันกุ้งปน และก็รสชาติจะมีความเป็นกุ้งมากเกินไปจนกลบความอร่อยของปูเค็มอ่ะค่ะ และหากไม่ทานเผ็ดจะใส่แต่พริกชี้ฟ้าอย่างเดียวก็ได้นะคะ ไม่มีปัญหาอะไรค่า ^_^
ยังไงเพื่อนๆ ลองไปทำทานกันดูนะคะ แล้วพบกับพิมใหม่จ้า ^_^
เเจ่มคับ
ตอบลบน่าลองทำจังเลยคะ
ตอบลบน่าอร่อยคับ
ตอบลบ